หน้าหนังสือทั้งหมด

การเจริญอานาปานสติกับการเข้าถึงสมาธิ
147
การเจริญอานาปานสติกับการเข้าถึงสมาธิ
เนื่องมาจากกายที่กระสับกระส่ายนั้น ตรงกันข้ามคนที่มีร่างกายไม่กระสับกระส่าย นั่งอยู่บน เตียงหรือตั่ง เตียงหรือนั่งก็ไม่โยกไม่ลั่น เครื่องปูลาดก็ไม่ยับ เพราะกายที่ไม่กระสับกระส่าย เป็นกายที่เบา ฉันใด เ
เนื้อหาเกี่ยวกับการฝึกอานาปานสติ ซึ่งนำไปสู่อาการของร่างกายที่เบา รู้สึกเหมือนลอย และหยุดหายใจขณะปฏิบัติภาวนา สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจิตใจ และสามารถพาไปสู่ระดับที่สูงกว่าในสมาธิ การทำความ
อานาปานสติและอานิสงส์ในการเจริญสมาธิ
149
อานาปานสติและอานิสงส์ในการเจริญสมาธิ
หากปฏิบัติตามนี้ ปฏิภาคนิมิตก็จะไม่เสื่อมหายไปและได้รูปฌานตามลำดับ แต่การ จะได้อัปปนาฌาน พึงทราบด้วยว่าลมเข้าลมออกและนิมิต เป็นอารมณ์ของจิตคนละดวง คนละ อัน ไม่ใช่อารมณ์ของจิตดวงเดียวกัน 5.6 อานิสงส์ขอ
ในข้อความนี้กล่าวถึงประโยชน์ของการปฏิบัติอานาปานสติ ที่ช่วยให้เกิดรูปฌานและเป็นบาทแห่งมรรคผล โดยเชื่อมโยงกับการทำสติปัฏฐาน 4 ดำเนินไปสู่โพชฌงค์ 7 และวิชชา รวมถึงผลการป้องกันวิตกและการรับรู้วันตาย โดยค
ความเป็นมาของอุปสมานุสติ
151
ความเป็นมาของอุปสมานุสติ
5.8 ความเป็นมาของอุปสมานุสติ อุปสมานุสติไม่ปรากฏเป็นเอกเทศในพระไตรปิฎกนอกจากจะปรากฏอยู่ในรายชื่อ ที่ท่านให้ไว้ในฌานวรรค ในอังคุตตรนิกาย แต่ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ท่านกล่าวว่าเป็นอารมณ์ ของสมาธิ และวางอุ
บทความนี้กล่าวถึงความเป็นมาของอุปสมานุสติในพระไตรปิฎก โดยมีการอธิบายว่าอุปสมานุสติไม่ได้เป็นเอกเทศ แต่มีความเชื่อมโยงกับฌานวรรคและอานาปานสติ อุปสมานุสติเป็นกรรมฐานสำหรับพระสาวกที่มีสติปัญญา และทำให้เข
การพิจารณาซากศพในอสุภ Meditation
21
การพิจารณาซากศพในอสุภ Meditation
6. วิกขิตตกอสุภ พิจารณาซากศพที่กระจาย อวัยวะกระเด็นไปคนละทิศละทาง ต้อง นำส่วนที่กระจัดกระจายในที่ต่าง ๆ มากองไว้ในที่เดียวกัน กำหนดบริกรรมว่า วิกขิตตก ปฏิกูล ๆ ๆ (ศพวิกขิตตกะ เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแข
ในเนื้อหานี้นำเสนอการพิจารณาอสุภ หรือซากศพในลักษณะต่างๆ เช่น วิกขิตตกอสุภ, หตวิกฺขิตฺตกอสุภ, โลหิตกอสุภ, ปุฬวกอสุภ และอฏฐิกอสุภ ซึ่งทุกตัวอย่างมีวิธีการบริกรรมและวิธีการพิจารณาที่แตกต่างกันไป ซากศพทั้
เมตตาและตัณหาเปมะในธรรมะ
39
เมตตาและตัณหาเปมะในธรรมะ
1. เมตตาอโทสะ คือ เมตตาแท้เป็นความปรารถนาดีต่อสัตว์ทั้งหลายอย่างแท้จริงโดย ไม่ยึดถือว่าผู้ที่เราแผ่ความปรารถนาดีรักใคร่นั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเรา เช่น เป็นบิดา มารดา บุตร ธิดา ภรรยา สามี ภรรยา ญา
บทความนี้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างเมตตาอโทสะ ซึ่งเป็นความปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่นอย่างแท้จริง และตัณหาเปมะ ซึ่งเป็นเมตตาแบบมีความยึดติดที่เกิดจากความรักใคร่ โดยเสนอขั้นตอนการเจริญเมตตาผ่านการฝึกฝน
ความโกรธและผลกระทบของศัตรู
46
ความโกรธและผลกระทบของศัตรู
ประการที่ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนที่เป็นศัตรูกันในโลกนี้ ย่อมปรารถนาต่อ คนที่เป็นศัตรู (ของตน) อย่างนี้ว่า โอหนอ! ขอให้เจ้าคนนี้ จึงเป็นผู้มีผิวพรรณทราม ข้อนั้น เพราะเหตุอะไร ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพ
บทความนี้กล่าวถึงความคิดของศาสนาพุทธเกี่ยวกับความโกรธและผลกระทบที่มีต่อผู้เป็นศัตรู โดยอธิบายถึงลักษณะของคนที่มีอารมณ์โกรธ รวมถึงความไม่พอใจและผลร้ายที่เกิดจากความเกลียดชัง ทั้งนี้ยังเปรียบคนที่มีความ
วิธีแผ่เมตตา 3 อย่าง
62
วิธีแผ่เมตตา 3 อย่าง
อย่างไรก็ตาม วิธีแผ่เมตตาไปทั่วทุกทิศและทั่วโลกดังที่แสดงมานี้ จะทำได้เฉพาะผู้ที่ได้ อัปปนาสมาธิตั้งแต่ปฐมฌานแล้วเท่านั้น 2.3.5 วิธีแผ่เมตตา 3 อย่าง ผู้ที่บรรลุถึงขั้นอัปปนาสมาธิหรือสีมส้มเภทเมตตาดีแล
ในเนื้อหานี้มีการอธิบายวิธีการแผ่เมตตา 3 ประเภท ได้แก่ อโนทิโสผรณา (การแผ่ทั่วไป), โอทิโซผรณา (การแผ่เจาะจง), และ ทิโสผรณา (การแผ่ในทิศทางต่างๆ) โดยนำเสนอความสำคัญของการแผ่เมตตาและศัพท์บาลีที่ใช้ในการ
มุทิตา: การเจริญมุทิตาแท้และเทียม
77
มุทิตา: การเจริญมุทิตาแท้และเทียม
มุทิตา เมื่อว่าโดยสามัญแล้วมี 2 อย่าง คือ 1. มุทิตาแท้ คือ แม้จะมีความรื่นเริงบันเทิงใจต่อสัตว์ที่มีสุขอยู่ หรือจะได้รับสุขต่อไป ข้างหน้าก็ดี จิตใจก็มิได้มีการยึดถือหรืออยากโอ้อวดต่อผู้อื่นแต่อย่างใดม
มุทิตาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มุทิตาแท้ ซึ่งปราศจากความยึดถือและแสดงความเบิกบานใจอย่างบริสุทธิ์ และมุทิตาเทียม ที่มีการยึดถือเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ส่วนบุคคล การเจริญมุทิตาภาวนาเน้นการใช้มุทิตาแท้เพื่
การเจริญอุเบกขาภาวนา
84
การเจริญอุเบกขาภาวนา
1. ไม่น้อมไปในความปรารถนาดี 2. ไม่น้อมไปในการบำบัดทุกข์ 3. ไม่น้อมไปในการชื่นชมยินดีในความสุขของเหล่าสัตว์แต่อย่างใดทั้งสิ้น ผู้เจริญอุเบกขาภาวนา จะมีมัชฌัตตสัตว์ (ผู้ที่เราไม่รู้สึกรักหรือชัง) เป็นอา
การเจริญอุเบกขาภาวนานั้น หมายถึงการวางเฉยต่อบุคคลโดยไม่รู้สึกรักหรือชัง ผู้ที่เจริญอุเบกขาจะมีมัชฌัตตสัตว์เป็นอารมณ์ที่จะรู้สึกเฉยต่อบุคคลทั้งที่อยู่ในความสุขหรือความทุกข์ การวางเฉยมีอยู่ 2 ประเภท ได้
การเจริญอุเบกขา
87
การเจริญอุเบกขา
เพราะฉะนั้น เมื่อได้เจริญอุเบกขาให้เกิดขึ้นในบุคคลที่เป็นกลาง ๆ จนกระทั่งจิตมี ลักษณะนุ่มนวลควรแก่งานจนได้ที่ดีแล้ว จากนั้นจึงเจริญอุเบกขาไปยังบุคคลที่รัก ต่อจากนั้นเป็น คนที่เป็นเพื่อนรักมากหรือสหายน
การเจริญอุเบกขาที่มีขั้นตอนต่างๆ เพื่อช่วยให้จิตใจเป็นกลาง มีความนุ่มนวล และสามารถขยายอุเบกขาไปยังผู้คนที่แตกต่างกันได้ รวมถึงการใช้วิธีแผ่อุเบกขาไปยังสรรพสัตว์และบุคคล เพื่อให้เกิดความสงบสุขในจิตใจ ถ
การเจริญอุเบกขาและอานิสงส์ของพรหมวิหาร
90
การเจริญอุเบกขาและอานิสงส์ของพรหมวิหาร
4. เหตุใกล้ : 5. ความสมบูรณ์ : มีปัญญาพิจารณาเห็นกรรมเป็นของของตน สัตว์ ทั้งหลายเป็นไปตามกรรมของตนเอง ไม่ใช่มีผู้ใด ผู้หนึ่งกระทำให้ เป็นเหตุใกล้ การสงบจากความเกลียดและไม่มีความรักเป็น ความสมบูรณ์ของอ
บทความนี้กล่าวถึงพัฒนาอุเบกขาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย การพิจารณากรรม การสงบจากความเกลียด และการเข้าถึงกายรูปพรหม ซึ่งทำให้เกิดอานิสงส์มากมาย เช่น การนอนที่มีความสุข ปัญญาที่จะถือกรรมเป็นของตน ซึ่งช่วยให
อากาสานัญจายตนฌานและการบรรลุสมาธิ
103
อากาสานัญจายตนฌานและการบรรลุสมาธิ
1. น ชียติ ไม่แก่ 2. น มียติ ไม่ตาย 3. น จวติ ไม่จุติ 4. น อุปฺปชฺชติ ไม่เกิด 5. อปุปสยุห์ ไม่มีใครข่มเหง 6. อโจรคหณีย์ ไม่มีโจรลัก 7. อนิสฺสินํ ไม่มีที่พึ่งอาศัย 8. วิหงุคคมน์ เป็นทางไปของเหล่าวิหค (
เนื้อหาว่าด้วยอากาสานัญจายตนฌานซึ่งมีความสำคัญในแนวทางการทำสมาธิ โดยสอนให้มีสติและมุ่งหน้าไปยังความว่างเปล่าของอากาศบัญญัติ ผู้ที่สามารถเพิกปฏิภาคนิมิตของกัมมัฏฐานได้สำเร็จจะถึงฌานที่ไม่มีรูปเป็นอารมณ
แนวคิดและวัตถุประสงค์ของอาหาเรปฏิกูลสัญญา
114
แนวคิดและวัตถุประสงค์ของอาหาเรปฏิกูลสัญญา
บทที่ 4 แนวคิดและวัตถุประสงค์ แนวคิด 1. การบริโภคอาหารที่ปราศจากการพิจารณาย่อมนำโทษมาให้ คือ ทำให้หลงผิด และ ยึดติดกับอาหาร อันจะทำให้เกิดความมัวเมา และไม่สามารถพัฒนาคุณภาพจิตขึ้นได้ อาหาเรปฏิกูลสัญญา
บทที่ 4 อธิบายเกี่ยวกับการบริโภคอาหารโดยไม่พิจารณาอาจนำมาซึ่งผลเสียต่างๆ และเสนอการเจริญอาหาเรปฏิกูลสัญญาเป็นวิธีการที่ช่วยให้เห็นคุณค่าของอาหาร รวมถึงการเข้าถึงพระธรรมกาย อาหารมี 10 อาการที่สามารถพิจ
ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นปฏิกูลของอาหารในร่างกาย
119
ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นปฏิกูลของอาหารในร่างกาย
นี่ไม่รวมอาหารที่เราได้บริโภคไว้ในชาติก่อน ๆ ผู้รู้จึงกล่าวอุปมาไว้ว่า ท้องของเราเหมือน มหาสมุทรประจำร่างกาย การบริโภคจึงเป็นสิ่งที่น่าเกลียด ดังกล่าวมานี้ 4. อาสยโต พิจารณาความเป็นปฏิกูลโดยที่อยู่ว่า
เนื้อหานี้เน้นการพิจารณาความเป็นปฏิกูลของอาหารที่เราเข้าไปบริโภค ซึ่งก่อให้เกิดส่วนประกอบที่ไม่สะอาดในร่างกาย มีการเน้นย้ำว่าท้องของเราคล้ายมหาสมุทรที่จะต้องรับสิ่งสกปรกต่าง ๆ อาหารที่เรากินเข้าไปจะมี
การพิจารณาอาหารเพื่อบรรเทาความยึดติดและทุกข์
121
การพิจารณาอาหารเพื่อบรรเทาความยึดติดและทุกข์
สำหรับอาหารชนิดอื่น คือ ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร และ วิญญาณาหาร ก็สามารถ นำทุกข์ภัยมาให้ไม่น้อยกว่ากพฬิงการาหาร บางอย่างน่ากลัวเป็นที่สุด เช่น การไม่รู้จัก สำรวม อินทรีย์ ลุแก่อำนาจความปรารถนา ความอยาก
อาหารชนิดต่างๆ เช่น ผัสสาหาร, มโนสัญเจตนาหาร และ วิญญาณาหาร นำพาให้เกิดทุกข์ ไม่ต่างจากกพฬิงการาหาร การไม่รู้จักสำรวมอาจทำให้จิตตกเป็นทาสของความปรารถนา เมื่อติดใจในอาหารและสิ่งต่างๆ อาจทำให้เกิดกรรมดี
ธาตุ 4 ในร่างกายมนุษย์
144
ธาตุ 4 ในร่างกายมนุษย์
1. วจนตกโต โดยความหมายแห่งศัพท์ คือ ดินที่เรียกว่า ปฐวี เพราะแผ่ไป น้ำที่ เรียกว่า อาโป เพราะเอิบอาบให้ชุ่มอยู่ หรือให้เต็มอยู่ ไฟ เรียกว่า เตโช เพราะทำให้ร้อน ลม เรียกว่า วาโย เพราะพัดให้ไหวทุกศัพท์ถ
เนื้อหาเกี่ยวกับธาตุ 4 ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วย ปฐวี (ดิน), อาโป (น้ำ), เตโช (ไฟ) และ วาโย (ลม) โดยแต่ละธาตุมีบทบาทที่สำคัญในความเป็นอยู่ของร่างกาย ซึ่งปฐวีมีส่วนช่วยในการสร้างโครงสร้างของร่าง
ลักษณะและประเภทของธาตุในธรรมชาติ
145
ลักษณะและประเภทของธาตุในธรรมชาติ
ปรากฏ 4. ลกฺขณาทิโต โดยลักษณะ รส ปัจจุปัฏฐาน กล่าวคือ ปฐวีธาตุ มีความแข็งเป็นลักษณะมีการทรงอยู่เป็นกิจ มีการรองรับรูปอื่นเป็นอาการ อาโปธาตุ มีการไหลหรือเกาะกุมเป็นลักษณะ ทำให้รูปที่เกิดร่วมด้วยมีความเ
เนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะและการระบุธาตุในธรรมชาติ ตามปัจจุบัน อธิบายถึงธาตุต่างๆ เช่น ปฐวีธาตุที่มีความแข็ง, อาโปธาตุที่มีการไหล, เตโชธาตุที่อบอุ่น, และวาโยธาตุที่มีความเคร่งตึง รวมถึงการกำเนิดและความแตก
การเจริญจตุธาตุววัตถานเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย
147
การเจริญจตุธาตุววัตถานเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย
เป็นปัจจัยโดยเป็นเครื่องพยุงไว้แห่งธาตุ 3 อย่างนอกนี้ ดังนั้นควรพิจารณาเห็นว่าธาตุเหล่านี้ โดยเป็นปัจจัยของกันและกัน 12. อสมนาหารโต ในบรรดาธาตุทั้ง 4 ปฐวีธาตุย่อมไม่รู้ว่า เราคือปฐวีธาตุ หรือว่าเราเป็
การเจริญจตุธาตุววัตถานในคัมภีร์วิสุทธิมรรคอธิบายว่า ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องใช้ปัญญา สามารถเข้าถึงได้เพียงอุปจารสมาธิ ผู้ปฏิบัติต้องทำใจนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย หากใช้วัตถุหรืออวัยวะเป
ความหมายของวิปัสสนา
21
ความหมายของวิปัสสนา
1.2.1 ความหมายของวิปัสสนา คำว่า วิปัสสนา มาจาก 2 บท คือ วิ + ปัสสนา วิ แปลว่า วิเศษ ปัสสนา แปลว่า การเห็น วิปัสสนา จึงหมายถึง การเห็นวิเศษ วิปัสสนานี้เป็นชื่อของปัญญา ซึ่งเป็นธรรมชาติที่รู้ ก็แต่ว่าสิ
วิปัสสนา แปลว่า การเห็นวิเศษ ซึ่งเป็นปัญญาที่รู้ลักษณะทั้ง 3 คือ อนิจจา ทุกข์ และอนัตตา ปัญญานี้ทำหน้าที่ละกิเลสที่เกิดจากการเข้าใจผิดเกี่ยวกับสังขารที่ดูเหมือนเที่ยงและสุข เมื่อวิปัสสนาเกิดขึ้น จะช่ว
ความหมายและภูมิของวิปัสสนา
22
ความหมายและภูมิของวิปัสสนา
เป็นเหตุ มีกิเลสเป็นปัจจัย เมื่อความสิ้นกิเลสและความสิ้นทุกข์จะสำเร็จได้โดยการเจริญ วิปัสสนาดังกล่าวมานี้ จึงกล่าวได้ว่า วิปัสสนานี้ มีความสิ้นกิเลสและความสิ้นทุกข์ เป็นประโยชน์ 1.2.2 ความหมายวิปัสสนา
วิปัสสนาเป็นการเห็นแจ้งในเรื่องอริยสัจ 4 และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอธิบายโดยพระมงคลเทพมุนี วิปัสสนาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเจริญภาวนาเพื่อขจัดกิเลสและความทุกข์ การเจริญวิปัสสนาต้องอาศัยเข้าใ